แนวโน้มความนิยมในการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะหลายคนเชื่อว่า อาจดีกว่าการทานอาหารปกติ หรือมีประสิทธิภาพสูงกว่ายา ถ้าอย่างนั้นลองมาเช็กกันหน่อยว่า อาหารเสริมจำเป็นกับเราแค่ไหน ?
นิยาม ของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร – อาหารเสริม คืออะไร ?
ในภาพรวมนั้นคำว่า “ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรืออาหารเสริม ” (Dietary / Food Supplement) หมายถึงอาหารอื่นที่เพิ่มเข้ามาจากอาหารหลัก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดูแลร่างกาย แต่หากเจาะลึกในนิยามของแต่ละประเทศอย่างละเอียดแล้ว อาจให้คำจำกัดความแตกต่างกันบ้างบางประการ ตัวอย่างเช่น องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Food and Drug Administration, USFDA) จัดให้อาหารเสริมเป็นยา ถึงแม้ฉลากจะระบุว่าเป็นอาหารเสริมก็ตาม ดังนั้นอาหารเสริมจึงสามารถใช้รักษา, วินิจฉัยโรค, ป้องกันโรคได้
แตกต่างกับทาง สำนักงานมาตรฐานอาหารของประเทศอังกฤษ (Food Standards Agency, FSA) ที่ระบุว่า อาหารเสริมเป็นอาหารที่ช่วยแก้ไขภาวะขาดสารอาหาร หรือทำหน้าที่เป็นอาหารเสริมบำรุงร่างกาย ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการทำงานของแต่ละระบบ ซึ่งไม่ใช่ยา จึงไม่สามารถรักษา ป้องกันโรค หรือออกฤทธิ์ปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบต่าง ๆ ได้ สอดคล้องกับคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของไทย ที่ประกาศไว้ในคำชี้แจงประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร พ.ศ.2548 ซึ่งสรุปได้ว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสารอาหาร หรือสารอื่นเป็นองค์ประกอบ ใช้รับประทานนอกเหนือจากอาหารหลักตามปกติ สำหรับคนที่มีสุขภาพปกติ มิใช่สำหรับผู้ป่วย
โดยประกาศฉบับที่ 2 พ.ศ.2550 ระบุเพิ่มเติมด้วยว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จัดเป็นอาหาร ไม่ใช่ยา จึงไม่มีสรรพคุณในการป้องกัน บำบัด หรือรักษาโรค ใช้สำหรับลดหรือขจัดปัญหาบางประการเท่านั้น ต่อมาในประกาศฉบับที่ 4 พ.ศ.2562 ได้มีการอัปเดตคำเตือนสำหรับอาหารเสริมแต่ละชนิดเพิ่มด้วย ดังนั้นผู้ที่ทานอาหารเสริม ยังคงต้องทานอาหารให้หลากหลายและครบ 5 หมู่อยู่เสมอ เพราะอาหารเสริม ไม่สามารถทดแทนอาหารมื้อหลักได้ และอาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน
อาหารเสริม จำเป็นสำหรับร่างกายไหม ?
อาหารเป็นสิ่งที่มนุษย์ทาน เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็น ซึ่งมีประโยชน์ในการดูแลร่างกาย แบ่งออกเป็น 5 หมู่ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต, โปรตีน, ไขมัน, วิตามิน และเกลือแร่ โดยแต่ละประเภท จะทำหน้าที่บำรุงและฟื้นฟูร่างกายแตกต่างกันออกไป สำหรับคนที่ร่างกายปกติ หากทานอาหารได้อย่างหลากหลายและเพียงพอ อาจไม่มีความจำเป็นต้องทานอาหารเสริมเพิ่ม แต่ต้องแน่ใจว่า สามารถทานได้ครอบคลุมตามปริมาณสารอาหารอ้างอิง (Dietary Reference Intake, DRI) ที่ควรได้รับในแต่ละวันจริง ๆ เช่น คาร์โบไฮเดรต 300 กรัม, โปรตีน 50 กรัม, ใยอาหาร 25 กรัม,วิตามินบี 1 ~ 1.5 มิลลิกรัม
แต่สำหรับคนที่ไม่สามารถทานอาหารได้ปกติ เช่น ผู้สูงอายุที่มีปัญหาการเคี้ยวกลืน, ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ทานอาหารได้น้อย, เด็กที่เลือกทานอาหารแค่บางชนิด หรือคนที่ทานอาหารมังสวิรัติ อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรค ที่เกี่ยวข้องกับภาวะขาดสารอาหาร จนทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ ดังนั้นคนกลุ่มนี้ อาจยังจำเป็นต้องทานอาหารเสริมบ้าง
อาหารเสริมบำรุงร่างกาย ดูแลสุขภาพได้ไหม ?
สำหรับคนที่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ มีข้อมูลจากหลายงานวิจัยที่สนับสนุนว่า การได้รับอาหารเสริม จะช่วยบำรุงและฟื้นฟูสุขภาพให้ดีขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น การศึกษาที่พบว่า วิตามินรวมที่ประกอบด้วยกรดไขมันโอเมกา-3, แอลคาร์นิทีน, กรดบอสเวลลิก และวิตามินเกลือแร่อีกหลากหลายชนิด ช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น เป็นหวัดน้อยลง ปวดหลังปวดกล้ามเนื้อลดลง และรู้สึกกระตือรือร้นเพิ่มขึ้นกว่าเดิม รวมถึงรายงานที่กล่าวว่า การได้รับอาหารเสริมมัลติวิตามินวันละครั้ง จะช่วยลดอุบัติการณ์การเกิดมะเร็งและต้อกระจกในเพศชาย ส่วนการทานกรดโฟลิก, เหล็ก, แคลเซียม,ไอโอดีน มีประโยชน์สำหรับหญิงตั้งครรภ์ จะเห็นว่าการทานอาหารเสริม อาจช่วยบำรุงและฟื้นฟูสุขภาพได้ แต่ไม่ควรทานเพื่อรักษาโรคโดยตรง
สรุป
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นเพียงแค่อาหาร ไม่ใช่ยา จึงไม่สามารถใช้รักษาโรค เพื่อให้หายจากความเจ็บป่วยทรมานได้ แต่อาจจำเป็นสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องการเคี้ยวกลืน หรือทานอาหารไม่หลากหลาย ซึ่งจะมีประโยชน์ในการช่วยลดปัญหาบางอย่างได้