รวม 8 วิตามินB มีอะไรกันบ้าง? มีประโยนช์อย่างไร? ทานปริมาณเท่าไหร่?

วิตามินบีแต่ละชนิดนั้นมีความจำเป็นและมีความสำคัญต่อร่างกายของเรา ท่านไหนที่กำลังรู้สึกว่าเพลีย เหนื่อยล้า อาจจะเป็นเพราะว่าพักผ่อนน้อย หรือขาดวิตามิน B  เราจะสามารถเลือกทานวิตามินไหน มีประโยชน์อย่างไร?  และทานในปริมาณเท่าไหร่ถึงจะพอต่อความต้องการของแต่ละท่าน แอดมีคำตอบให้ค่ะ ไปดูพร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ   

วิตามินบีควรรับประทานเท่าไหร่ต่อวัน และสามารถพบในไหนได้บ้าง?

วิตามินบีนั้นมีอยู่หลายชนิด ซึ่งมีประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป โดยวิตามินบีสามารถแบ่งแยกได้อีก 8 ชนิด ดังต่อไปนี้

Vitamin B1 (ไทอะมีน) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาท หัวใจ และทางเดินอาหาร 

วิตามินบี1ปริมาณที่ควรกิน : 1 – 1.5 มิลลิกรัมต่อวัน
อาหารที่มีวิตามินบี 1 : มีอยู่ในผัก อยู่ในธัญพืช เช่น โฮลวีต ถั่วเหลือง ข้าวโอ๊ต ถั่วลิสง รำข้าว ข้าวซ้อมมือ
โปรตีน เช่น นม ไข่แดง ปลา เนื้อหมูไม่ติดมัน

Vitamin B2 (ไรโบฟลาวิน) ช่วยบำรุงเส้นผม เล็บ และผิวหนังให้มีสุขภาพดี

วิตามินบี2

ปริมาณที่ควรกิน : 1.3-1.6 มิลลิกรัมต่อวัน
อาหารที่มีวิตามินบี 2 : โปรตีน เช่น ไข่ นม โยเกิร์ต ชีส ปลา ตับ ในผักใบเขียว และถั่ว ref=ct

Vitamin B3 (ไนอะซิน) รักษาอาการร้อนใน ลดสิวอักเสบ และยังสามารถช่วยบรรเทาอาการผื่นแดงได้อีกด้วย 

ปริมาณที่ควรกิน : 14-16 มิลลิกรัมต่อวัน
อาหารที่มีวิตามินบี 3 : โปรตีน เช่น ไข่ ปลา เนื้อไม่ติดมัน ไก่ ตับ คาร์โบไฮเดรต เช่น โฮลวีต จมูกข้าวสาลี ถั่วลิสง อะโวคาโด
ผลไม้ เช่น อินทผลัม ลูกพรุน มะเดื่อฝรั่ง

Vitamin B5  (กรดแพนโทเทนิก) สามารถช่วยลดความเจ็บปวดจากอาการข้ออักเสบ ลดอาการนอนไม่หลับ 

ปริมาณที่ควรกิน : 5-10 มิลลิกรัมต่อวัน
อาหารที่มีวิตามินบี 5 : ผักของตระกูลกะหล่ำปลี เช่น บร็อคโคลี่ คะน้า ในธัญพืชไม่ขัดสี เช่น จมูกข้าวสาลี และถั่ว อะโวคาโด และผลิตภัณฑ์จากนม

Vitamin B6(ไพริด็อกซิน) มีส่วนช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมโปรตีนและไขมันได้ดียิ่งขึ้น 

วิตามิน

ปริมาณที่ควรกิน : 1.3-2 มิลลิกรัมต่อวัน
อาหารที่มีวิตามินบี 6 : ในธัญพืชไม่ขัดสี เช่น รำข้าว จมูกข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ถั่วลิสง ถั่วเหลือง วอลนัต
โปรตีน เช่น ไข่ ตับ ปลา แซลมอน กุ้ง ชีส ทูน่า ในกะหล่ำปลี แครอท ผักโขม กล้วย

Vitamin B7 (ไบโอติน) ช่วยป้องกันผมหงอกได้ดี และบำรุงรักษาเล็บที่แห้งเปราะ แก้ผดผื่นคัน

ปริมาณที่ควรกิน : 100-300 มิลลิกรัมต่อวัน
อาหารที่มีวิตามินบี 7 : ในธัญพืชไม่ขัดสี โปรตีน และผลิตภัณฑ์จากนม

Vitamin B9 (กรดโฟลิก) ช่วยบำรุงผิวพรรณและสุขภาพ รักษาปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอได้ 

ปริมาณที่ควรกิน : 180 – 200 มิลลิกรัมต่อวัน
อาหารที่มีวิตามินบี 9 : ผักใบเขียวเข้ม หน่อไม้ฝรั่ง กะหล่ำดาว ส้ม ถั่ว ไข่แดง ตับ

Vitamin B12 (Vitamin B12) สามารถช่วยลดอาการเหน็บชา และอาการซึมเศร้าได้ 

วิตามินบี12 2

ปริมาณที่ควรกิน : 2.6 ถึง 2.8 ไมโครกรัมต่อวัน
อาหารที่มีวิตามินบี 12 : ผลิตภัณฑ์จากนม ปลา เนื้อสัตว์

เรื่องสุขภาพที่น่าสนใจ

ป้องกันการล้มผู้สูงอายุ

เปิดแนวทาง การป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ เพื่อลดเสี่ยงอุบัติเหตุร้ายแรง

ความเสี่ยงของการหกล้มในผู้สูงอายุ มีอัตราสูงขึ้นกว่าคนวัยอื่น ตามสภาพร่างกายที่ถดถอย ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า