RSV ย่อมาจาก Respiratory Syncytial Virus เป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดอาการอักเสบที่เยื่อบุส่วนล่างของทางเดินหายใจคือ เกิดภาวะปอดอักเสบซึ่งไวรัสตัวนี้สามารถพบได้ในช่วงปลายฝนต้นหนาว โรคที่พบมากในเด็กเล็ก ผู้ปกครองต้องระวังและดูแลลูกของตัวเองอย่างใกล้ชิด ไวรัสตัวนี้มีอาการและวิธีป้องกันอย่างไร? ผู้ปกครองสามารถศึกได้ตามด่านล่างนี้ได้เลยค่ะ
เชื้อไวรัส RSV คืออะไร?
ไวรัส RSV ย่อมาจาก Respiratory Syncytial Virus เป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อได้จาการสัมผัสของผู้ติดเชื้อไวรัส RSV เข้าสู่ร่างกายผ่านทางตา หู จมูก ปาก หรือสัมผัสเชื้อโดยตรงจากการจับมือ ไวรัส RSV จะมีชีวิตยู่ภายนอกร่างกายได้หลายชั่วโมง เด็กเล็กสามารถรับเชื้อไวรัสได้ตั้งแต่แรกเกิด โดยเชื้อมีระยะฟักตัวประมาณ 2-6 วัน หลังจากที่ได้รับเชื้อ
ผู้ปกครองสามารถสังเกตอาการของลูกน้อยว่าเป็นติดเชื้อ RSV หรือไม่? สามารถสังเกตได้ตามดังนี้
- ภาวะขาดน้ำ สังเกตเวลาลูกร้องไห้ แต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมา
- อาการไข้สูงขึ้นๆ ลงๆ และมีน้ำมูกใสๆ ไหลตลอดเวลา
- เบื่ออาหาร งอแง และอาการซึม
- ไอมากจนเหนื่อย ไอคล้ายเสียงหมาเห่า จามบ่อย
- มีเสมหะสีคล้ำเขียว หรือสีเหลือง
- หายใจเป็นเสียงหวีด หายใจตื้นเร็ว สั้น ดูเหนื่อย หายใจลำบาก ปีกจมูกบานเวลาหายใจ
- ปลายนิ้ว เล็บ เริ่มเปลี่ยนสีเป็นเขียวคล้ำ ตัวลายเขียวจากการขาดออกซิเจน
นอกจากนั้นมีอาการหอบ ไอรุนแรง ทำให้อาการรุนแรงอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตแต่พบไม่มาก การเสียชีวิตเป็นเพราะระบบทางเดินหายใจล้มเหลว โดยเฉพาะเด็กทารกอายุน้อยๆ จะยิ่งเสี่ยง หรือเป็นเพราะการส่งผู้ป่วยมารักษาช้าเกินไป
วิธีการรักษาเบื้องต้น
- ทานยาลดไข้ตามอาการทุก ๆ 4- 6 ชม.
- คอยเช็ตตัวให้ลูกเล็กเพื่อให้ไข้ลด
- นอนพักผ่อนให้มาก ๆ จะทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ไวขึ้น
- หากวันที่ 4 ทานยากแล้วอาการไม่ดีขึ้น ให้รีบนำส่งโรงพยาบาล แพทย์จะทำการรักษาตามอาการของคนไข้
วิธีการป้องกันไม่ให้เสี่ยงเป็นไวรัส RSV
- หมั่นคอยล้างมือด้วยน้ำสบู่ทุกครั้งก่อนสัมผัสและก่อนอุ้มเด็ก
- ถ้าหากลูกติดเชื้อ RSV หยุดเรียนเพื่อไม่ให้แพร่เชื้อ
- หลีกเลี่ยงการจูบและหอมเด็ก เพราะอาจเป็นการแพร่เชื้อโดยไม่รู้ตัว
- ใส่หน้ากากอนามัย หรือใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปาก ปิดจมูก เวลาไอ จาม
- ไม่นำบุตรหลานไปในที่ชุมชนคนเยอะ
- หมั่นทำความสะอาดของใช้ ของเล่น และแยกแก้วน้ำส่วนตัว