อาการปวดท้องประจำเดือนผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องเคยมีอาการปวดท้องบริเวณท้องน้อยอยู่เสมอ และทำให้สาว ๆ อาจจะคิดว่าเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่บางท่านก็ต้องกินยาลดอาการปวดท้องประจำเดือนถึงจะบรรเทาอาการปวดลงได้ ถ้าเลี่ยงได้ก็อย่าไปกินเลยค่ะ สำหรับสาว ๆ ที่ถามมาว่าปวดท้องประจำเดือนนั้นน่ากลัวหรือไม่ ? เป็นสัญญาณบ่งบอกโรคที่ซ่อนอยู่หรือไม่? ไปดูกันเลยค่ะ
สาเหตุของการปวดประจำเดือนของผู้หญิง
อาการปวดประจำเดือนเกิดจากสารที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน ชื่อว่า โพรสตาแกลนดิน (prostaglandin) ซึ่งก่อตัวขึ้นที่เยื่อบุโพรงมดลูกระหว่างมีประจำเดือน โพรสตาแกลนดิน ทำให้กล้ามเนื้อบีบตัวและหดเกร็งคล้ายกับอาการเจ็บปวดขณะคลอดบุตร หากร่างกายหลั่งสารนี้ในปริมาณมากจะยิ่งเพิ่มความรุนแรงของอาการบีบรัด ทำให้รู้สึกปวดประจำเดือนยิ่งขึ้นนั้นเองค่ะ
สำหรับวิธีบรรเทาอาการปวดประจำเดือนของผู้หญิง
- กระเป๋าน้ำร้อนประคบท้องน้อยจะช่วยบรรเทาอาการปวดท้องได้เลย
- ให้สาว ๆ อาบน้ำอุ่นแทนน้ำเย็น
- ใช้เทคนิคการผ่อนคลาย เช่น โยคะหรือนั่งสมาธิ
- ถ้าหากอาการปวดท้องรุนแรงไม่สามารถทนได้ ให้รับประทานยาต้านการอักเสบชนิดไม่มีสเตียรอยด์ (NSAIDs) การทานยาอาจมีผลข้างเคียง
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- รับประทานผักและผลไม้ ลดปริมาณอาหารที่มีไขมัน เกลือ เครื่องดื่มผสมคาเฟอีน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และขนมหวานไปก่อนนะคะ
อาการต้องรุนแรงแค่ไหนถึงจะไปพบแพทย์?
- ปวดประจำเดือนมากขึ้น
- รับประทานยาแก้ปวดไปแล้วยังไม่หายปวด
- สำหรับสาว ๆ ที่มีอายุมากกว่า 25 ปี รู้สึกปวดประจำเดือนครั้งแรก
- ขณะที่เป็นประจำเดือนมีไข้ร่วมด้วย หรือเรียกว่า ไข้ทับระดู
- มีเลือดไหลออกมามากกว่าปกติ มากจนต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกชั่วโมง
- มีบุตรยาก
- มีอาการติดเชื้อ เช่น ตกขาวมีกลิ่น อาการคันบริเวณปากช่องคลอด เลือดประจำเดือนมีสีแปลกไปจากปกติ